นอกจากรูปร่างหน้าตาของรถ Formula 1 ที่เป็นรถแข่งล้อเปิด มีปีกหน้า ปีกหลัง และ Roll Hoop ด้านหลังนักขับเหมือนกับ Emoji นี้ 🏎️ อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำของผู้คนทั่วไปเมื่อนึกถึงรถ Formula 1 ก็คือลายบนตัวรถ Formula 1 ซึ่งเป็นโลโก้ของผู้สนับสนุนของแต่ละทีมแข่ง F1
ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่าทำไมหลายแบรนด์เลือกที่จะโฆษณาแบรนด์บนรถแข่ง F1 ทั้งแบรนด์ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับวงการยานยนต์โดยตรงและแบรนด์ที่ไม่น่าจะเกี่ยว และมาดูกันว่าแบรนด์เหล่านี้ทำธุรกิจอะไรถึงเลือกโฆษณาด้วยการสนับสนุนทีมแข่ง F1 ทั้ง 10 ทีม
ก่อนอื่นเราจะเริ่มจากพาไปทำความรู้จักกับ “การโฆษณา (Advertising)” กันก่อน
โฆษณา คืออะไร?
โฆษณา คือ การสื่อสารทางการตลาดด้วยการประกาศเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้สินค้าหรือบริการที่ได้โฆษณาเกิดการรับรู้การมีอยู่ของแบรนด์ (Brand Awareness) และได้รับความสนใจ ตลอดจนใช้ในการชักชวนหรือโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายให้ทำตามสิ่งที่ได้โฆษณา
เราจะเห็นว่าเหตุผลที่แบรนด์โฆษณาด้วยการสนับสนุนทีม F1 ซึ่งทำให้แบรนด์มีโลโก้ติดอยู่บนรถแข่ง F1 คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ได้รับประโยชน์ทั้งหมดที่กล่าวมาทั้ง Brand Awareness และการโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายให้มองแบรนด์ในมุมมองที่แบรนด์ต้องการ ซึ่งนำไปสู่ประโยชน์ใน 3 กรณีนี้
- การสร้างการรับรู้แบรนด์
- การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
- สร้างความน่าเชื่อถือ
และการโฆษณาในลักษณะนี้นับว่าเป็น Paid Media ที่แบรนด์ได้มาด้วยการจ่ายเงิน และอาจรวมถึงความร่วมมือทางเทคนิค เพื่อให้ได้พื้นที่โฆษณาในสุดสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน Formula 1
ทำไมแบรนด์โฆษณาด้วยการสนับสนุนทีม F1
ปัจจุบันมีแบรนด์ที่เลือกโฆษณาด้วยการสนับสนุนทีม F1 มากกว่า 300 แบรนด์ในปี 2025 และถ้าหากเทียบจาก 100 แบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ปี 2024 ที่จัดทำขึ้นโดย Interbrand เราจะพบว่ามีแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับ Formula 1 มากกว่า 30 แบรนด์ในปัจจุบัน และถ้าหากเรารวมแบรนด์ในเครือและแบรนด์ที่เคยสนับสนุนทีม Formula 1 แต่ปัจจุบันไม่ได้สนับสนุนแล้วจำนวนจะเพิ่มไปมากกว่า 50 จาก 100 แบรนด์ดังกล่าว
นอกจากนั้น ถ้าหากอ้างอิงจากสื่อด้าน Motorsport ในต่างประเทศที่ได้มีการเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการ ว่ามูลค่าการสนับสนุนต่อปีสูงสุดในปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ HP ที่เป็น Title Partner ของ Scuderia Ferrari และ Oracle ที่เข้ามาเป็น Title Partner ของ Red Bull Racing
แล้วอะไรทำให้แบรนด์เหล่านี้ยอมจ่ายเงินมากขนาดนั้น?
การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการมองเห็น
Formula 1 หรือ F1 เป็นการแข่งขันที่ถือเป็นจุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต จากทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีด้านความเร็วที่ล้ำสมัยที่สุดในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยปัจจุบันการแข่งขัน Formula 1 ในแต่ละฤดูกาลจะจัดขึ้นใน 24 สนามทั่วโลก (ไม่รวม Pre-Season Testing) ซึ่งปี 2024 ที่ผ่านมาจำนวนผู้เข้าชมที่ซื้อบัตรเพื่อเข้าชมที่สนามเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 270,000 คนต่อสนาม และจำนวนผู้เข้าชมตลอดฤดูกาล 2024 อยู่ที่ 6.5 ล้านคน ขณะที่สนามที่มีผู้เข้าชมที่สนามมากที่สุดคือ British Grand Prix มีผู้เข้าชม 480,000 คนใน และ Australian Grand Prix มีผู้เข้าชม 450,000 คน ส่วน Singapore Grand Prix สนามที่ใกล้บ้านเราที่สุดมีผู้เข้าชมที่สนาม 269,000 คนในปีที่ผ่านมา
ในด้านของผู้ชมจากทางบ้าน ล่าสุดมีการเปิดเผยสถิติผู้ชมจากทางฝั่งสหรัฐอเมริกา โดย ESPN ระบุว่าในปี 2024 มีผู้ชมเฉลี่ย 1.13 ล้านคนต่อการแข่งขัน และสนามที่มีผู้ชมมากที่สุดคือ Miami Grand Prix มีผู้ชม 3.1 ล้านคน (ทั้งนี้ Formula 1 ในสหรัฐฯ ได้รับความนิยมไม่เท่ากับฝั่งยุโรป และผู้ชมทางบ้านได้รับผลกระทบด้านเวลาค่อนข้างมาก)
ดังนั้นแล้ว สิ่งแรกที่แบรนด์จะได้รับจากการมี Logo อยู่บนส่วนต่าง ๆ ของรถแข่ง F1 ที่แบรนด์เข้าไป Sponsor ไม่ว่าแบรนด์จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ก็คือการสร้าง Brand Awareness ผ่านการเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกทั้งในและนอกสนามมากกว่า 1 พันล้านครั้งตลอดฤดูกาลตลอดการแข่งขัน Formula 1 (อ้างอิงจากสถิติที่ Formula 1 เปิดเผยเองในปี 2021 ซึ่งในปีดังกล่าวมีจำนวนการแข่งขันต่อปีน้อยกว่าปัจจุบัน)
โดยแบรนด์ที่สนับสนุนทีม F1 โดยมีเป้าหมายในลักษณะนี้มักจะเป็นแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงคนทั่วโลก (ซึ่งมักจะเป็นแบรนด์สินค้าที่จับตลาด Mass Market อย่างสินค้า FMCG) และแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูงที่มีความสนใจในเทคโนโลยี (ซึ่งมักจะเป็นแบรนด์สินค้าและบริการ Luxury)
การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
การเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ตรงกับ Positioning ของแบรนด์เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับแบรนด์ ซึ่งในการสปอนเซอร์ทีมแข่ง F1 เองก็ได้รับประโยชน์ในด้านนี้เช่นกัน
หากอ้างอิงจากที่ Toto Wolff, Team Principal และ CEO ของทีม Mercedes-AMG Petronas เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ CNBC ว่าปัจจุบันการสปอนเซอร์ทีมแข่ง Formula 1 ทีมแข่งไม่ได้มีเป้าหมายเพียงด้านการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความร่วมมือทางเทคนิคที่จำเป็นกับการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้เราจึงมักเห็นหลายทีมจะมี Sponsors หรือ Partners เป็นแบรนด์ที่ทำธุรกิจเหมือน ๆ กันในส่วนงานที่จำเป็นต่อการแข่งขัน ซึ่งแบ่งคร่าว ๆ ได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับรถแข่ง F1 โดยตรง เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์, อุตสาหกรรม 3D Printing, การ CNC, อุปกรณ์ช่าง, และน้ำมัน
- แบรนด์ที่ช่วยสนับสนุนทีมอยู่นอกสนาม เช่น บริษัทโลจิสติกส์ที่ช่วยด้านการขนส่ง และเครือโรงแรมที่ให้ที่พักกับทีมที่ต้องเดินทางไปแข่งขันทั่วโลก
- แบรนด์ที่ให้ความร่วมมือด้านซอฟต์แวร์ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, Simulation, Cloud, และ Cyber Security
ซึ่งความร่วมมือในลักษณะนี้นอกจากแบรนด์ที่สนับสนุนทีม F1 จะได้ Brand Awareness ยังช่วยให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีม ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านคุณภาพของสินค้าหรือบริการในสายตาของผู้โภคโดยตรง เพราะ Formula 1 คือกีฬาที่มีภาพลักษณ์ด้านความล้ำหน้าทางเทคนิคโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
อย่างเช่น น้ำมันเครื่อง Shell ที่อยู่คู่กับ Scuderia Ferrari มาอย่างยาวนาน และ Red Bull ที่สร้างทีมแข่ง F1 เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านกีฬา Extreme ให้ดูจริงจังยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งแบรนด์รถยนต์ที่เข้าร่วมการแข่งขัน F1 เพื่อแสดงศักยภาพของแบรนด์ตนเองผ่านการแข่งขันอย่างตรงไปตรงมา
สร้างความน่าเชื่อถือ
ในกรณีนี้จะคล้ายกับเป้าหมายก่อนหน้า แต่แบรนด์ที่สนับสนุนทีม F1 และการแข่งขันโดยตรงจะมีเป้าหมายในการมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับความเป็นเลิศของทีมหรือความเป็นที่สุดของกีฬา F1 เพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้มีความร่วมมือทางเทคนิค โดยทั่วไปแบรนด์เหล่านี้มักจะเป็นแบรนด์ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและเสริม Positioning เกี่ยวกับความ Luxury หรือความเป็นที่สุดของแบรนด์เพื่อสร้างความโดดเด่นหรือเพื่ออยู่ในระดับเดียวกันท่ามกลางคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งมักจะเป็นแบรนด์เหล่านี้
- ธุรกิจด้านการเงินและการลงทุน
- ธุรกิจบันเทิง (ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมายไทย)
- แบรนด์ Luxury
- แบรนด์ผู้นำในตลาดที่ต้องการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำ
- แบรนด์ที่ต้องการสร้างหรือต่อยอด Brand Heritage เช่น Ferrari, McLaren, และ Aston Martin
นอกจากนี้ ในบางกรณียังใช้เป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างธุรกิจด้วยกันเองใน Paddock ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับธุรกิจแบบ B2B
Scuderia Ferrari HP
Scuderia Ferrari ทีมที่เก่าแก่ที่สุดของ Formula 1 และประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Formula 1 โดยเป็นแชมป์ประเภททีม (Constructors’ Championships) มากถึง 16 ครั้ง และสร้างแชมป์ประเภทนักขับ (Drivers’ Championships) ซึ่งรวมไปถึงหนึ่งในนักขับที่แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้ติดตามการแข่งขัน Formula 1 ยังอาจเคยได้ยินชื่ออย่าง Michael Schumacher ที่คว้าแชมป์กับ Scuderia Ferrari ไปมากถึง 5 ครั้ง (จากที่เขาเป็นแชมป์ทั้งหมด 7 ครั้ง)
ความสำเร็จอันล้นหลามของ Scuderia Ferrari จึงทำให้ทีมเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการแข่งขัน Formula 1 และถูกตีมูลค่าเป็นทีมที่มีมูลค่ามากที่สุดในการแข่งขัน Formula 1 โดย ณ เริ่มต้นปี 2025 ทีม Scuderia Ferrari HP มี Partners ทั้งหมด 49 แบรนด์ ซึ่งมีจำนวน Partners มากเป็นอันดับ 2 รองจากอันดับ 1 เล็กน้อย โดยนอกเหนือจาก HP ที่เป็น Title Partner ทีมยังได้มีการแบ่งสปอนเซอร์ของทีมเป็นอีก 4 กลุ่ม ได้แก่ Premium Partner, Team Partner, Official Partner, และ Technical Partner
HP (Title Partner) แบรนด์คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยตั้งแต่กลางฤดูกาล 2024 เป็นต้นมา HP ได้เข้ามาเป็น Title Partner ของ Scuderia Ferrrari และให้ความร่วมมือด้วยการสนับสนุนด้วยผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีการประชุมทางไกลให้กับทีมทั้งในและนอกสนาม

แบรนด์ที่เป็น Premium Partners ของ Scuderia Ferrari
- Shell บริษัทพลังงานข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในด้านการสำรวจ ผลิต กลั่น และจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- UniCredit กลุ่มธนาคารพาณิชย์และการเงินข้ามชาติจากประเทศอิตาลี
- IBM บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในระดับโลก ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ การประมวลผลคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์
- Puma*
- VGW Play บริษัทออสเตรเลียที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเกมโซเชียลออนไลน์โดยใช้ระบบเครดิตแทนเงินจริง
แบรนด์ที่เป็น Team Partners ของ Scuderia Ferrari
- Ambipar เป็นบริษัทผู้นำด้าน ESG ที่ให้บริการเกี่ยวกับ Circular Economy ประกอบไปด้วยบริการที่เกี่ยวกับ การลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbon), จัดการขยะ, เปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน, จัดการน้ำ, และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
- DXC Technology บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการด้าน IT Solution ตั้งแต่การให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี บริการคลาวด์ ไปจนถงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
- Peroni Nastro Azzurro 0.0 แบรนด์เบียร์ไร้แอลกอฮอล์สัญชาติอิตาลี ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้ Peroni
- Amazon Web Services (AWS) ผู้ให้บริการคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในปัจจุบัน
- Richard Mille* แบรนด์นาฬิกา Luxury สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
- CEVA Logistics ให้บริการด้านการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน โดยให้บริการขนส่งทุกรูปแบบ รวมถึงพิธีการศุลกากร
- Bitdefender บริษัทพัฒนาและจำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์
- Ray-Ban แบรนด์แว่นกันแดดและแว่นสายตา
- Genesys บริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการโซลูชันเกี่ยวกับศูนย์ติดต่อลูกค้า (Contact Center) และการบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)
- ZCG บริษัทด้านการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของ ZCG คือ Pension Funds, Fund of Funds, Family Offices, และบริษัทประกันในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
- HCL Software แบรนด์ผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับธุรกิจ เช่น AI, Automation และ Cyber Security
- CELSIUS แบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและเครื่องดื่มชูกำลังสัญชาติอเมริกัน
- OMR Automotive บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- Chivas Regal แบรนด์ Blended Scotch Whisky
แบรนด์ที่เป็น Official Partners ของ Scuderia Ferrari
- Philip Morris International บริษัทยาสูบสัญชาติอเมริกันที่ผลิตและจัดจำหน่ายไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน PMI พยายามหันไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลอดควันโดยมียอดขายผลิตภัณฑ์ปลอดควันประมาณ 30%
- Vantage*** โบรกเกอร์ CFD
- Bang & Olufsen แบรนด์เครื่องเสียง Luxury จากเดนมาร์ก
- Ecopol บริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน ฟิล์มละลายน้ำ (Water-Soluble Films) และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
- VistaJet บริษัทให้บริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
- ManpowerGroup บริษัทจัดหางานและบริการอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์
- Armani แบรนด์แฟชั่น Luxury สัญชาติอิตาเลียน
- Technogym แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำระดับโลกจากอิตาลี
- IVECO บริษัทผู้ผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร รถตู้ส่งของ รถดับเพลิง และรถกู้ภัย จากประเทศอิตาลี
แบรนด์ที่เป็น Technical Partners ของ Scuderia Ferrari
- MAHLE บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนลูกสูบ ระบบกรอง ระบบระบายความร้อน และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ จากเยอรมนี
- SKF บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืนและซีลสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรม รวมถึงเครื่องมือบำรุงรักษา
- Bell Racing แบรนด์หมวกกันน็อคสำหรับมอเตอร์สปอร์ต
- Brembo บริษัทผู้นำด้านการผลิตเบรกสำหรับยานพาหนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในรถสปอร์ตและรถแข่ง
- NGK บริษัทผู้ผลิตหัวเทียนและเซ็นเซอร์สำหรับเครื่องยนต์สัญชาติญี่ปุ่น
- Garrett บริษัทผู้ผลิตเทอร์โบชาร์จเจอร์
- Riedel*
- Sabelt*
- Öhlins Racing บริษัทสัญชาติสวีเดนที่เชี่ยวชาญด้านระบบกันสะเทือน (Suspension) คุณภาพสูงสำหรับรถแข่ง
Mercedes-AMG Petronas
Mercedes Benz เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับ Formula 1 มาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะห่างหายไปจากวงการมอเตอร์สปอร์ต ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ Formula 1 ด้วยการซื้อทีม Brawn GP ในปี 2010 และเข้าสู่ยุครุ่งเรืองในยุคเครื่องยนต์ V6 Turbo ซึ่งถ้าหากนับตั้งแต่กลับเข้าสู่ Formula 1 ทีมได้คว้าแชมป์ผู้ผลิต (Constructors’ Championships) 8 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2014 ถึงปี 2021 และคว้าแชมป์ประเภทนักขับ (Drivers’ Championships) ได้ 7 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2014 ถึงปี 2020
ปัจจุบัน Mercedes-AMG Petronas เป็นทีม Formula 1 ที่มีมูลค่าแบรนด์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Scuderia Ferrari และมีกำไรจากการดำเนินงานมากที่สุดในบรรดา 10 ทีม และในส่วนของผู้สนับสนุนของทีมมีอยู่ทั้งสิ้น 24 แบรนด์ ซึ่งโดยส่วนมากเป็นแบรนด์จากธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียง ทำให้ Mercedes-AMG น่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่ Partners มีสัดส่วนเป็นแบรนด์ที่คนทั่วไปรู้จักมากที่สุดทีมหนึ่ง
Petronas (Title Partner) เป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติของประเทศมาเลเซีย ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจร
INEOS (Principal Partner) เป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติสัญชาติอังกฤษ ซึ่งถือเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก นอกจากนี้ INEOS ยังมีธุรกิจเพิ่มเติม ได้แก่ เชื้อเพลิง บรรจุภัณฑ์และอาหาร การก่อสร้าง ยานยนต์ ยา สิ่งทอ และกีฬาอาชีพ ทั้งนี้ INEOS เป็น 1 ใน 3 ผู้ถือหุ้นของทีม ร่วมกับ Mercedes-Benz และ Toto Wolff หัวหน้าทีมในปัจจุบัน

แบรนด์ที่เป็น Team Partners ของ Mercedes-AMG Petronas F1
- Crowdstrike บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) สัญชาติอเมริกันที่ให้บริการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการรักษาความปลอดภัยของระบบในรูปแบบ Endpoint Protection ซึ่งเป็นบริการที่เป็นที่รู้จักกันในระดับองค์กร แม้ว่าเมื่อปี 2024 จะกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้วก็ตาม
- adidas แบรนด์เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์กีฬา
- Snapdragon เป็นแพลตฟอร์ม System on a Chip (SoC) ที่พัฒนาโดยบริษัท Qualcomm ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things)
- TeamViewer บริษัทเทคโนโลยีที่ผลิตซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระยะไกลสำหรับการเข้าถึงและควบคุมคอมพิวเตอร์ (Remote Software) รวมถึงการสนับสนุนออนไลน์ และการประชุมทางไกล
- Solera เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการเกี่ยวกับวงจรชีวิตของรถยนต์ (Vehicle Lifecycle Management) เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการประเมินความเสียหายของยานยนต์ การจัดการการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และการวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการซ่อม
- Signify เป็นแบรนด์ด้านหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างเพื่องานโครงการและผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งระบบแสงสว่างสำหรับ Internet of Things (IoT)
- UBS ธุรกิจการเงินระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ให้บริการด้านการธนาคาร การลงทุน และการจัดการสินทรัพย์ ซึ่งปัจจุบัน UBS ถือเป็น Wealth Managers ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- Hewlett Packard Enterprise (HPE)* เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสำหรับองค์กร โดยบริการหลักของ HPE ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร ระบบการจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และบริการด้านไอที ตลอดจนการสนับสนุนและบริการที่เกี่ยวข้องกับบริการหลักอื่น ๆ
- G42 บริษัทด้าน AI, Cloud Computing, และ Big Data จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- nuvei บริษัทฟินเทคจากแคนาดาที่ให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจทั่วโลก ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
- IWC Schaffhausen แบรนด์นาฬิกา Luxury สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
- Akkodis บริษัทด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีที่ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่ปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยี และ Digital Transformation ในหลากหลายอุตสาหกรรม
- SAP บริษัทซอฟต์แวร์เยอรมนี ให้บริการในการผลิตซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจ (ERP) และ Solution สำหรับองค์กร
- Einhell แบรนด์เครื่องมือไฟฟ้าและเครื่องใช้ในบ้านที่ใช้พลังงานแบตเตอร์รี่หรือไฟฟ้าจากเยอรมนี
- AMD แบรนด์หน่วยประมวลผล CPU และ GPU ทั้งสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเซิร์ฟเวอร์
- WhatsApp แอปพลิเคชัน Chat ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Meta (หรือ Facebook ในอดีต)
- The Ritz-Carlton เครือโรงแรมหรู 5 ดาวระดับโลก
- Luminar บริษัทผู้พัฒนาเซ็นเซอร์ LiDAR สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบช่วยขับขี่
- Sherwin Williams บริษัทผลิตสีและวัสดุเคลือบผิวรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา
Endless (Team Suppliers) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เบรกประสิทธิภาพสูงจากญี่ปุ่น
BetterUp (Regional Partners) แพลตฟอร์มบริการการโค้ชชิ่งรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน
Aston Martin Aramco
Aston Martin Aramco เป็นทีมของแบรนด์ Supercar สัญชาติอังกฤษที่ปัจจุบัน Lawrence Stroll เป็นเจ้าของ จากการเข้าซื้อกิจการ Aston Martin ที่กำลังประสบปัญหาในปี 2020 ซึ่งการที่ Lawrence Stroll ได้บริษัท Aston Martin มาครอบครอง เขาได้เปลี่ยนชื่อ Racing Point F1 Team (ที่มีอยู่แล้ว จากการซื้อกิจการทีม Force India ที่ประสบปัญหาในปี 2018) เป็น Aston Martin F1 Team เพื่อการแข่งขันในปี 2021 ในทันทีเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ Aston Martin และทำตามเป้าหมายในการผลักดันลูกชายของเขา Lance Stroll พร้อมกับสร้างทีมที่พร้อมจะชิงแชมป์โลกประเภททีมภายในปี 2026
จากเป้าหมายดังกล่าว Lawrence Stroll เองก็ได้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จากทั้งการสรรหา Partners ที่จำเป็น การสร้างโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงอุโมงค์ลมที่จำเป็นต่อการพัฒนารถ Formula 1 ตลอดจนการสรรหาบุคลากรสำคัญที่มีผลงานมาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น Fernando Alonso อดีตแชมป์โลกประเภทนักขับ 2 สมัย, Dan Fallows และ Adrian Newey ที่เป็นส่วนหนึ่งของการพา Red Bull Racing เป็นแชมป์โลกในปัจจุบัน และในปัจจุบัน Aston Martin F1 มี Partners ทั้งหมด 30 แบรนด์ และมี Saudi Aramco บริษัทที่ร่ำรวยที่สุดของโลกเป็น Title Partner และ Ma’aden เป็น Principal Partner
Saudi Aramco (Title Partner) เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศซาอุดิอารเบีย และเป็นบริษัทที่รวยที่สุดในโลกที่แท้จริง โดย Saudi Aramco ได้เข้ามาเป็น Title Partner ของ Aston Martin F1 ตั้งแต่ปี 2024 หลังจากที่กองทุน Public Investment Fund (PIF) เข้ามาลงทุน ซึ่งถือหุ้น Aston Martin Lagonda มากเป็นอันดับ 2 รองจาก Lawrence Stroll โดยการลงทุนใน Aston Martin และ Aston Martin F1 เป็นสิ่งที่อยู่ในแผนการขยายการลงทุนของประเทศ เพื่อทดแทนการพึ่งพาเพียงแค่รายได้จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว อย่างที่เราจะเห็นว่าในระยะหลังกองทุนแห่งชาติของซาอุดิอารเบียจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย อย่างเช่นความพยายามลงทุนในเกม และความพยายามเป็นศูนย์กลางในการจัดแข่ง E-Sport ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
Ma’aden (Principal Partner) บริษัทเหมืองแร่ของซาอุดิอาระเบียที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขุดและแปรรูปแร่ เช่น ทองคำ ฟอสเฟต อะลูมิเนียม และแร่อื่น ๆ

ทีมที่เป็น Global Partners ของ Aston Martin Aramco
- Cognizant บริษัทที่ปรึกษาและให้บริการด้านไอทีจากสหรัฐฯ ที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ ระบบคลาวด์ และโซลูชันดิจิทัล
- Glenfiddich โรงกลั่นวิสกี้จากสกอตแลนด์
- Boss บริษัทแฟชั่นที่ผลิตเสื้อผ้า เครื่องประดับ และน้ำหอม
- Valvoline ผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่นและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์
- NextGen บริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) และการบริหารจัดการคลินิก
- Coinbase*** ผู้ให้บริการ Cryptocurrency Exchange ตั้งแต่ยุคแรก ๆ จากสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน Coinbase มี Trading Volume อยู่ใน 3 อันดับแรก และมีลูกค้ามากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก
- servicenow บริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการแพลตฟอร์มการจัดการบริการดิจิทัล
- Pepperstone*** โบรกเกอร์ซื้อขาย Forex และ CFD จากออสเตรเลีย
- SentinelOne บริษัทซอฟต์แวร์ด้าน Cyber Security สัญชาติอเมริกันที่ให้บริการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการรักษาความปลอดภัยแบบ Endpoint Protection ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ระดับองค์กรเลือกใช้ (เช่นเดียวกับ Crowdstrike)
- Citi (หรือ Citigroup) เป็นธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินระดับโลก
- JCB บริษัทผลิตเครื่องจักรก่อสร้างจากอังกฤษ โดยเป็นบริษัทผลิตเครื่องจักรก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก (รองจาก Caterpillar และ Komatsu)
- Regent Seven Seas Cruises บริษัทเรือสำราญ Luxury
- NetApp บริษัทให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและคลาวด์
- Circle8 บริษัทจัดหาบุคลากรด้านไอที
- Velocity Black ธุรกิจ Concierge Service สำหรับไลฟ์สไตล์ Luxury
- Xerox บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์
- arm บริษัทออกแบบชิปและเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ arm ก็คือชิป Apple Silicon ในอุปกรณ์ของ Apple
- Atlas Air สายการบินให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศและเครื่องบินเช่าเหมาลำ
- Elemis ผลิตภัณฑ์ความงามด้านการดูแลผิว
- Girard-Perregaux แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์
- Puma*
- Bombardier บริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน
- TikTok แพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสั้นจากจีน (เป็นเหตุผลที่เราเห็น Fernando Alonso ลงคอนเทนต์ TokTok บ่อย ๆ)
- Financial Times สำนักข่าวธุรกิจ การเงิน และเศรษฐกิจ ในเครือ Nikkei Inc.
- Wolfgang Puck เครือร้านอาหารหรูที่มีเชฟชาวออสเตรเลียชื่อเดียวกันเป็นเจ้าของ
ทีมที่เป็น Official Suppliers ของ Aston Martin Aramco
- Oakley แบรนด์แว่นตากันแดด แว่นสายตา อุปกรณ์กีฬา และเครื่องแต่งกายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- OGIO แบรนด์กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จับกลุ่มนักกีฬาและนักเดินทางที่ต้องการความทนทาน
- Stilo บริษัทผลิตหมวกกันน็อกและอุปกรณ์สำหรับการแข่งรถ
Oracle Red Bull Racing
Oracle Red Bull Racing เป็นทีมจากแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull จากออสเตรียที่มีจุดเริ่มต้นมาจากแบรนด์กระทิงแดง (ปัจจุบันฝั่งไทยถือหุ้นอยู่ 51%) โดยเป็นทีมที่สร้างแชมป์โลกประเภทนักแข่ง (Driver’s Champion) คนล่าสุด Max Verstappen ที่เป็นแชมป์โลกประเภทนักขับติดต่อกัน 4 สมัย (2021 ถึง 2024) ปัจจุบัน Red Bull Racing มี Partner อยู่ทั้งหมด 30 แบรนด์ (ไม่รวม Red Bull ที่เป็นเจ้าของทีม) และมี Oracle บริษัทเทคโนโลยีเป็น Title Partner ของทีม โดย Red Bull Racing ไม่ได้มีการแบ่งกลุ่มระดับของ Partners เป็นหลายกลุ่มชัดเจน มีเพียง Team Partners และ Technical Partners
Oracle (Title Partner) เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านฐานข้อมูล ซอฟต์แวร์คลาวด์ และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของภาษา Java

แบรนด์ที่เป็น Team Partners ของ Red Bull Racing
- Armor All แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์
- Athletic Propulsion Labs แบรนด์รองเท้ากีฬา
- AvaTrade*** โบรกเกอร์ CFD และ Forex
- Castore*
- EA Sports แผนกของบริษัท Electronic Arts หรือ EA ที่พัฒนาวิดีโอเกมกีฬา
- Gate.io*** แพลตฟอร์ม Cryptocurrency Exchange
- Hard Rock เครือธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
- Heineken แบรนด์เบียร์จากเนเธอร์แลนด์
- Maui Jim แบรนด์แว่นกันแดด
- New Era*
- PATRÓN Tequila แบรนด์เตกีลาจากเม็กซิโก
- Pepe Jeans แบรนด์เสื้อผ้าเดนิมจากสหราชอาณาจักร
- Rauch แบรนด์น้ำผลไม้จากประเทศออสเตรีย
- Rokt แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- Visa บริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลก ซึ่งทำธุรกิจอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคทั่วไป ธุรกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานของรัฐ
- YETI แบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น กระติกน้ำแข็ง กระบอกน้ำ และอุปกรณ์ตั้งแคมป์
แบรนด์ที่เป็น Technical Partners ของ Red Bull Racing
- 1Password แอปพลิเคชันจัดการรหัสผ่านและข้อมูลส่วนตัว
- Ansys บริษัทซอฟต์แวร์วิศวกรรมที่พัฒนาซอฟต์แวร์จำลองสถานการณ์สำหรับวิศวกรและนักออกแบบ
- AT&T บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
- CDW บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) แก่ธุรกิจ ภาครัฐ และสถาบันการศึกษา รวมถึงจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, และซอฟต์แวร์, และบริการด้านไอทีต่างๆ
- DMG MORI บริษัทผลิตเครื่องจักรกลซีเอ็นซี (CNC) จากเยอรมนี
- Esso แบรนด์สถานีบริการน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ExxonMobil
- Hexagon บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกที่ให้บริการโซลูชันด้านการวัด การทำแผนที่ และการวิเคราะห์ข้อมูล
- Honda บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตระบบเครื่องยนต์ (Power Unit) ให้กับทีม Oracle Red Bull Racing และ Visa Cash App Racing Bulls
- Mobil 1 แบรนด์น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณภาพสูง เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ExxonMobil
- Neat แบรนด์อุปกรณ์ Video Conference
- PWR เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการออกแบบ ผลิต และทดสอบระบบระบายความร้อนขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ
- Siemens AG ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และโซลูชันด้านดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรม ซึ่งให้ความร่วมในการจัดการด้านการขนส่ง การออกแบบ การปรับปรุงการผลิตซ้ำ การจัดการชิ้นส่วน และการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม
- Sparco บริษัทสัญชาติอิตาลีที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ต เช่น เบาะรถแข่ง พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัย ชุดแข่ง หมวกกันน็อก ถุงมือ และรองเท้า
Atlassian Williams Racing
Williams Racing เป็นหนึ่งใน 3 ทีมที่มีความยิ่งใหญ่ในแง่ผลงานและประวัติศาสตร์ที่ยาวใน Formula 1 เช่นเดียวกับ Scuderia Ferrari และ McLaren โดย Williams Racing เป็นเจ้าของแชมป์ Formula 1 ประเภททีม 9 ครั้งเท่ากับ McLaren และสร้างแชมป์โลกประเภทนักขับมาแล้ว 7 ครั้ง แต่เนื่องด้วยเป็นทีมขนาดเล็กที่เปรียบเสมือนธุรกิจครอบครัวซึ่งไม่ได้มีรายได้มหาศาลจากธุรกิจทำเงินเหมือนกับทีมส่วนใหญ่ ส่งผลให้ทีมประสบปัญหาการเงินมาอย่างยาวนาน และแม้ว่าในปี 2020 จะได้ขายทีมให้กับ Dorilton Capital จากสหรัฐฯ แต่ทีมก็ยังคงทำผลงานได้ไม่ดีนักจากปัญหาด้านการเงินดังกล่าวที่ยังคงค้างคาและส่งผลกับทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานของทีม ทำให้ปัจจุบัน Williams Racing ถือว่ามีจำนวน Sponsor ที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ
โดย Partners ของ Williams Racing ในภาพรวม ณ เริ่มต้นฤดูกาล 2025 ทีมมี Partners ทั้งสิ้น 21 แบรนด์ แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ในเครือเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน ซึ่งรวมถึง 2 แบรนด์ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยก็เป็นแบรนด์จากในเครือเดียวกันเช่นกัน
Atlassian (Title Partnership) เป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการสื่อสารภายในองค์กรจากประเทศออสเตรเลีย โดยมีซอฟต์แวร์องค์กรที่โด่งดัง คือ Jira, Trello, Bitbucket, และ Confluence โดย Atlassian เข้ามาเป็น Title Sponsor ของ Williams Racing ในปี 2025 เป็นปีแรกหลังจากที่ให้การสนับสนุนทีมครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2018

แบรนด์อื่น ๆ ที่เป็น Partners กับ Williams Racing
- Komatsu บริษัทข้ามชาติญี่ปุ่นที่ผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การทำเหมือง อุตสาหกรรมป่าไม้ และการทหาร ปัจจุบัน Komatsu ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก Caterpillar
- Kraken*** ผู้ให้บริการ Cryptocurrency Exchange เจ้าแรก ๆ ของโลก ตั้งแต่ปี 2010 โดยปัจจุบัน Kraken ยังคงมี Trading Volume อยู่ใน 10 อันดับแรก และมีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก
- MyProtein แบรนด์สัญชาติอังกฤษ ภายใต้ THG plc ที่ทำธุรกิจด้านโภชนาการสำหรับนักกีฬา
- Gulf Oil International (GOI) บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในเครือ Hinduja Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ (downstream) ในลักษณะ Privately-owned ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน โดยธุรกิจหลักคือน้ำมันหล่อลื่นสมรรถนะสูง ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง
- DURACELL แบรนด์ถ่านและแบตเตอรี่สัญชาติอเมริกันในเครือ Berkshire Hathaway โดยสินค้าที่เป็นที่รู้จักของ DURACELL คือถ่านอัลคาไลน์ที่มีสีดำน้ำตาล ซึ่ง Williams เองก็ได้นำเอกลักษณ์นี้มาใช้กับส่วนของ Airbox Intake ของรถ
- Stephens เป็นหนึ่งใน Investmanet Banks นอกตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ
- Santander บริษัทด้านธนาคารและการเงินที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศสเปน
- VAST Data บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการประมวลผล AI และ Deep Learning
- Keeper Security บริการจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) รวมถึงบริการ Zero-trust Remote Access, Remote Browser Isolation, และ Secrets Management สำหรับองค์กร
- THG Ingenuity บริษัทในเครือ THG plc (เครือเดียวกันกับ MyProtein) ประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับ Digital Commerce ให้กับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคใน 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยี การตลาดดิจิทัล และ Operations
- FanCapital เป็นบริษัทที่ให้บริการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลและกลยุทธ์การสร้างรายได้ใหม่ ๆ เพื่อการขยายฐานแฟนให้กับนักกีฬาและทีมกีฬา เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้ Dorilton Capital เจ้าของทีมในปัจจุบัน
- Reviva แบรนด์กาแฟจากสหราชอาณาจักรที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2023 เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ Gulf Oil International
- Zoox บริษัทแท็กซี่ไร้คนขับจากแคลิฟอร์เนีย เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยในเครือ Amazon
- Dorilton Ventures เป็น Private Investment Firm ที่อยู่ในเครือ Dorilton Group ซึ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นหลัก ขณะที่ Dorilton Capital เจ้าของ Williams Racing จะเน้นลงทุนในธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมและการปฏิบัติการเป็นหลัก
- Puma*
- LifeFitness แบรนด์เครื่องออกกำลังกาย โต๊ะเกม และเฟอร์นิเจอร์ จากสหรัฐอเมริกา ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Life Fitness, Hammer Strength, Cybex, ICG®, SCIFIT และ Brunswick Billiards ไปยัง 166 ทั่วโลก
- Sia (Spinal Injuries Association) เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตหลังการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
McLaren F1
McLaren เป็นทีมที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของ Formula 1 จากทั้ง 10 ทีมในปัจจุบัน ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนชื่อและเป็น 1 ใน 2 แบรนด์ Supercar และเป็นเจ้าของแชมป์ประเภททีม (Constructors’ Championships) ล่าสุด โดย McLaren เป็นทีมสุดท้ายที่ (เลือกจะ) ไม่มี Title Partner ในปัจจุบัน และเป็นทีมที่มีสปอนเซอร์มากที่สุดถึง 53 แบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ โดย Partners ของ McLaren จะถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ (และไม่มีชื่อเรียก) แต่เราจะอ้างอิงจากการจัดกลุ่มและขนาดของโลโก้ Partners ในแต่ละกลุ่มบนเว็บไซต์ McLaren
แบรนด์ที่เป็น Partnerships ในระดับสูงสุดของ McLaren F1
- OKX*** ผู้ให้บริการ Cryptocurrency Exchanges อันดับต้น ๆ ของโลก
- MasterCard บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกในอุตสาหกรรมการชำระเงิน ให้บริการทำธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคทั่วไป ธุรกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานของรัฐ
- Google แบรนด์เทคโนโลยีที่อยู่ใน Top 4 แบรนด์เทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ธุรกิจส่วนใหญ่เป็นบริการด้านเทคโนโลยีที่เราต่างคุ้นเคยกันดี เช่น Search Engine ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด, Gmail ซึ่งเป็นฟรีเมลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด, คลาวด์, YouTube, Workspace, Drive, และระบบปฏิบัติการ Android (หากสังเกตที่ฝาครอบล้อจะเห็นว่าเป็น 4 สีของ Google)

แบรนด์ที่เป็น Partnership ของ McLaren ที่เทียบได้กับ Premium Partners
- British American Tobacco (BAT) เครือบริษัทผู้ผลิตยาสูบ ซึ่งเป็นทีมที่เคยเป็นเจ้าของทีม Formula 1 มาก่อนจากการเข้าซื้อทีม Tyrrell ที่เปลี่ยนมือมาจนกลายเป็นทีม Mercedes-AMG Petronas ในปัจจุบัน
- allwyn ผู้ให้บริการลอตเตอรี่รายใหญ่ในยุโรป
- CISCO บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านเครือข่าย เช่น อุปกรณ์เครือข่าย ซอฟต์แวร์ และบริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
- DP World บริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการท่าเรือและสถานีขนส่งสินค้า
แบรนด์อื่น ๆ ที่เป็น Partners ของ McLaren
- Android ระบบปฏิบัติการมือถือแบบ Open Source ที่พัฒนาโดย Google ซึ่งใช้ในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย
- Chrome เว็บบราวเซอร์ที่พัฒนาโดย Google
- Dell Technologies บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติที่พัฒนา ผลิต จำหน่าย และสนับสนุนคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และบริการต่าง ๆ
- Monster Energy บริษัทเครื่องดื่ม Energy Drink, น้ำอัดลม, และเครื่องดื่มอื่น ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ Energy Drink ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
- Arrow Electronics บริษัทด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ และชิปหน่วยความจำ รวมถึงโซลูชั่นด้านเทคโนโลยี ระบบคลาวด์ และ Cyber Security
- Jack Daniel’s แบรนด์ Tennessee Whiskey
- Eco Lab บริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาความยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำ สุขอนามัย และการป้องกันการติดเชื้อ
- Okta ให้บริการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลของบริษัท พนักงาน และผู้ใช้
- Estrella Galicia 0,0 เบียร์ไร้แอลกอฮอล์ภายใต้แบรนด์ Estrella Galicia จากสเปน
- Dropbox ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage)
- DeWALT แบรนด์เครื่องมือไฟฟ้าและเครื่องมือช่างสำหรับงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม จากสหรัฐอเมริกา
- Goldman Sachs บริษัทการเงินและการลงทุนระดับโลก
- Workday ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวด์สำหรับบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) และการเงิน
- Saleforce ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับธุรกิจ
- Hilton เครือโรงแรมระดับโลก
- Alteryx บริการซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
- Unilever บริษัท FMCG ระดับโลกชื่อดังที่มีแบรนด์ในเครืออยู่มากกว่า 400 แบรนด์
- Google Cloud บริการคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ บนคลาวด์จาก Google ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นลำดับต้น ๆ ในปัจจุบัน
- Deloitte บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ให้บริการด้านการสอบบัญชี การให้คำปรึกษาทางการเงิน การให้คำปรึกษาด้านการจัดการ และการให้คำปรึกษาด้านภาษี
- ebay แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ทั้งสินค้าใหม่และสินค้ามือสองจากสหรัฐอเมริกา
- Splunk บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ ค้นหา และตรวจสอบข้อมูล
- Optimum Nutrition แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกาย
- Greene Tweed บริษัทผู้ผลิตวัสดุและชิ้นส่วนวิศวกรรมขั้นสูง ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อากาศยาน พลังงาน และอุตสาหกรรมทางการแพทย์
- T-Mobile บริษัทโทรคมนาคมของสหรัฐอเมริกา
- Halo บริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการแพลตฟอร์มการจัดการบริการ (Service Management Platforms) ที่ชื่อ HaloITSM และ แพลตฟอร์มสำหรับผู้ให้บริการจัดการด้านไอที (IT Managed Service Providers) ที่ชื่อ HaloPSA
- Richard Mille* แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์
- udemy แพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์
- Medallia บริการซอฟต์แวร์ด้านการจัดการประสบการณ์ลูกค้า
- FxPro*** โบรกเกอร์ให้บริการซื้อขายหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และ Forex
- Smartsheet แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการงานและการทำงานร่วมกัน (Project & Work Management Platform)
- Airwallex แพลตฟอร์มการชำระเงิน ให้บริการการชำระเงิน การรับชำระเงิน และการจัดการเงินตราต่างประเทศสำหรับธุรกิจ
แบรนด์ที่เทียบได้กับ Technical Partners ของ McLaren
- Castore*
- Lego แบรนด์ของเล่นตัวต่อพลาสติกแบบล็อค
- TUMI แบรนด์สินค้าประเภทกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเป้ กระเป๋าถือ และอุปกรณ์เสริมสำหรับการเดินทางระดับพรีเมียม
- Reiss แบรนด์แฟชั่นจากสหราชอาณาจักร นำเสนอเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง
- FAI Aviation Group บริษัทให้บริการด้านการบิน บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ บริการขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ และบริการจัดการเครื่องบิน
- New Era*
- CNBC สำนักข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ การเงิน จากสหรัฐอเมริกา
- K Swiss แบรนด์รองเท้าและเครื่องแต่งกายกีฬาเทนนิส จากสหรัฐอเมริกา
- AkzoNobel-Sikkens บริษัทสีและสารเคลือบ
- Alpinestars*
- Ashurst บริษัทกฎหมายระหว่างประเทศขนาดใหญ่ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน สหราชอาณาจักร
- Stratasys บริษัทเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (Additive Manufacturing) ซึ่งพัฒนา ผลิตและจำหน่ายเครื่องพิมพ์ 3 มิติ วัสดุการพิมพ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง
- KAUST หรือ King Abdullah University of Science and Technology มหาวิทยาลัยที่เน้นด้านการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท) จากซาอุดิอาระเบียที่มุ่งหาทางแก้ปัญหาด้านอาหาร น้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
- SunGod แบรนด์แว่นกันแดดและแว่นตาสำหรับเล่นกีฬาจากสหราชอาณาจักร
Visa Cash App Racing Bulls
Visa Cash App Racing Bulls เป็นที่รู้จักกันในฐานะทีมลูกของ Red Bull Racing ซึ่งนักแข่งหน้าใหม่หลายคนของ Red Bull Racing จะต้องผ่านการขับกับทีมนี้มาก่อน โดยในปี 2025 ถือเป็นปีที่ 2 ของชื่อทีม Visa Cash App Racing Bulls เนื่องจากเป็นทีมที่เปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้งโดยที่ยังมี Red Bull เป็นเจ้าของ ตั้งแต่ Scuderia Toro Rosso และ Scuderia AlphaTauri ก่อนจะมาใช้ชื่อ Visa Cash App Racing Bulls ในปัจจุบัน
โดย Visa Cash App Racing Bulls จะแบ่ง Sponsors หรือ Partners ของพวกเขาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ Title Partners, Team Partners, และกลุ่มที่ไม่มีชื่อเรียก

Visa และ Cash App Title Partners ของทีม
- Visa บริการด้านการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลก ซึ่งทำธุรกิจอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคทั่วไป ธุรกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานของรัฐ โดยธุรกิจหลักของ Visa ประกอบด้วย การออกบัตรเครดิตและเดบิตร่วมกับธนาคารพันธมิตร ตัวกลางเครือข่ายการชำระเงิน (VisaNet) การชำระเงินระหว่างประเทศ และการชำระเงินระหว่างธุรกิจ
- Cash App แอปพลิเคชันสำหรับการใช้จ่ายเงิน ส่งเงิน ฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง และเรียกเก็บเงิน อีกทั้งยังรองรับการใช้ Cryptocurrency ที่สามารถใช้บริการได้ฟรี (ไม่ได้เปิดให้บริการในไทย)
แบรนด์ที่เป็น Team Partners ของ VCARB
- Honda**
- HUGO แบรนด์เครื่องแต่งกายซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ HUGO BOSS
- Hugo Eyewear แบรนด์ลูกของ HUGO BOSS ที่ผลิตกรอบแว่นแฟชั่นและเลนส์คุณภาพสูง
- NEFT Vodka แบรนด์วอดก้าผลิตในประเทศออสเตรียที่ไม่มีน้ำตาลและสารเติมแต่ง
- Piquadro แบรนด์กระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าเดินทาง และสินค้า Accessories จากอิตาลี
- Randstad บริษัทด้านธุรกิจหางานและการให้คำปรึกษาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- RebelDot บริษัทเทคโนโลยีจากโรมาเนียซึ่งให้บริการที่ปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี
- Siemens**
- TUDOR แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส ที่ก่อตั้งโดย Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Rolex
- XM TRADING*** โบรกเกอร์ CFD และ Forex
Partners อื่น ๆ ของ VCARB
- Airtasker แพลตฟอร์มจ้างงาน Freelance ในออสเตรเลีย
- dynatrace บริการซอฟต์แวร์ Application Performance Monitoring (APM)
- Riedel*
- student.com เว็บไซต์สำหรับหาที่พักนักศึกษาต่างชาติ
- hahnair สายการบินเยอรมนี และบริการด้านการจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน
หมายเหตุ: ** คือ แบรนด์ที่เป็นผู้สนับสนุน Oracle Red Bull Racing ด้วยเช่นกัน
Kick Sauber
Sauber คือ ทีมจากสวิตเซอร์แลนด์ที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนมือมาตั้งแต่เริ่มต้น แต่ในปี 2026 จะเปลี่ยนมือมาเป็นของ Audi ซึ่งในระหว่างปี 2024 และ 2025 ทีมจึงได้ใช้ชื่อ Kick Sauber ระหว่างช่องว่างที่เกิดจากการที่ Alfa Romeo ได้ถอนตัวออกไปเมื่อจบปี 2023 โดยในปี 2025 ทีม Sauber มีทั้งหมด 34 แบรนด์ (1 แบรนด์ผิดกฎหมายที่เราไม่ได้กล่าวถึง) โดยมี Title Partner ถึง 2 แบรนด์พร้อมกัน
Kick (Title Partner) แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ โดย Sauber เป็นอีกหนึ่งทีมที่มี 2 Title Partners คือ Kick และบริษัทแม่ซึ่งทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย

Partners อื่น ๆ ของ Sauber
- Camozzi บริษัทด้านการผลิตระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม (Industrial Automation) รวมถึงส่วนประกอบ
- FIX Network ทำธุรกิจเกี่ยวกับบริการหลังการขายต่าง ๆ ของรถยนต์ ประกอบด้วยแบรนด์ Fix Auto, NOVUS Glass, ProColor Collision, Speedy Auto Service, Speedy Glass US และ SRP
- Mascot Workwear แบรนด์ผู้ผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการทำงาน (Workwear) จากเดนมาร์ก
- SenseTime บริษัทเทคโนโลยีด้าน AI และ Computer Vision จากจีน เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบจดจำใบหน้าและการประมวลผลภาพ
- Singha (สิงห์) แบรนด์เครื่องดื่มจากไทย
- Sunoco บริษัทด้านพลังงานจากสหรัฐอเมริกา ทำธุรกิจด้านการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น
- Web Eyewear แบรนด์แว่นตาแฟชั่นระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็น House Brand ของ Marcolin
- Zero Petroleum บริษัทที่มุ่งเน้นการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ปราศจากฟอสซิล
- Ceramica Cielo แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำจากอิตาลี
- Code Zero แบรนด์แฟชั่นเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ทางทะเลที่ผสมผสานระหว่างชุดกีฬาและชุดลำลอง
- Extreme Networks Ireland Ops, Ltd. เครือข่ายคลาวด์ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ แอปพลิเคชัน และผู้คน
- GlobeAir สายการบินเช่าเหมาลำเครื่องบินส่วนตัวจากออสเตรีย
- Jeckerson แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นจากอิตาลี
- JigSpace แพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านการสร้างและแชร์โมเดล 3D และ AR
- Puma*
- Additive Industries ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตโลหะ
- Agilis ผลิตภัณฑ์สีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
- Beyond Nations เป็น Agency และผู้ผลิต NoBound ซึ่งเป็นระบบ SaaS สำหรับการสร้างเว็บไซต์
- Brütsch-Rüegger เครื่องมือและอุปกรณ์วัดคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรม จากสวิตเซอร์แลนด์
- Edelweiss AG สายการบินเพื่อการพักผ่อน ในเครือ Swiss International Air Lines (SWISS) และ Lufthansa Group
- GeorgFischer ผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความแม่นยำสูง ผลิตเครื่องมือ และการผลิตแม่พิมพ์ โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วย เครื่องกัด, EDM, การสร้างพื้นผิวด้วยเลเซอร์, การตัดด้วยเลเซอร์ขนาดเล็ก, และ Additive Manufacturing Machines
- Hewlett Packard Enterprise (HPE)* เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสำหรับองค์กร
- Mitsubishi Electric บริษัทข้ามชาติจากญี่ปุ่นที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท
- Riedel*
- Sabelt*
- Scania ผู้ผลิตรถบรรทุก รถโดยสาร และเครื่องยนต์ดีเซล
- Tucano แบรนด์กระเป๋าและอุปกรณ์เสริม (Accessories) สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากประเทศอิตาลี
- Walter Meier บริษัทโซลูชันแบบครบวงจรด้านงานกลึง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือ อุปกรณ์ ระบบทำความสะอาดสำหรับการตัดโลหะ และแม่พิมพ์ ตลอดจนการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนทางเทคนิค และบริการหลังการขาย
- Catalano แบรนด์ด้านเซรามิกในห้องน้ำ จากประเทศอิตาลี
- Libertex*** โบรกเกอร์ซื้อขาย Forex, CFD, และการลงทุนอื่น ๆ
- CoinPayments*** แพลตฟอร์มการชำระเงินด้วย Cryptocurrency
BWT Alpine
Alpine เป็นทีมที่เปลี่ยนชื่อมาจาก Renault ซึ่งเคยเป็นแชมป์ประเภททีมพร้อมกับแชมป์ประเภทนักขับ 2 ครั้งในปี 2005 และ 2006 กับ Fernando Alonso โดยเหตุผลที่ Renault ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อมาเป็น Alpine ตั้งแต่ปี 2021 จากการที่แบรนด์ Renault ได้เลิกผลิตรถยนต์สันดาปและหันไปผลิตรถ EV เป็นหลัก (แต่มีข่าวว่า Renault จะกลับมาผลิตรถยนต์สันดาปควบคู่ไปกับรถ EV ในอนาคต) ซึ่งปัจจุบัน Alpine มีผู้สนับสนุนทั้งหมด 35 แบรนด์ โดย BWT เป็น Title Partner ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้รถของทีม Alpine เป็นใช้สีชมพู ร่วมกับสีน้ำเงินของ Alpine เป็นคู่สีหลัก (มี 1 แบรนด์ผิดกฎหมายไทยที่เราไม่ได้ใส่เข้ามา)
BWT หรือ Best Water Technology (Title Partner) เป็นบริษัทเทคโนโลยีน้ำชั้นนำจากประเทศออสเตรีย ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการกรองน้ำ น้ำดื่ม การบำบัดน้ำ และเทคโนโลยีเกี่ยวกับสระว่ายน้ำ

แบรนด์ที่เป็น Premium Partners ของ Alpine
- ENI บริษัทน้ำมันและพลังงานจากอิตาลี ทำธุรกิจด้านน้ำมัน ก๊าซ และพลังงานหมุนเวียน
- MSC Cruises บริษัทเรือสำราญระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์
- H. Moser & Cie. แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์
แบรนด์ที่เป็น Team Partners ของ Alpine
- Arctic Wolf บริษัทเทคโนโลยีด้าน Cyber Security
- Ape Coin โทเคนคริปโตเคอร์เรนซีของ Bored Ape Yacht Club
- Banco BRB ธนาคารของรัฐบาลบราซิลที่ให้บริการทางการเงินแก่ภาครัฐและเอกชน
- Binance บริษัท Cryptocurrency Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
- Businessolver บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการแพลตฟอร์มการบริหารสวัสดิการพนักงานในองค์กร
- Canel’s แบรนด์ขนมและหมากฝรั่งจากเม็กซิโก
- Castore*
- Eurodatacar ระบบป้องกันการโจรกรรมรถยนต์
- Infinox*** โบรกเกอร์ CFD
- Mercado Libre บริษัท e-commerce และแพลตฟอร์มประมูลออนไลน์ (คล้าย eBay) ที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา
- Microsoft 1 ใน 4 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาที่พัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และให้บริการด้านคลาวด์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่ทุกคนต่างคุ้นเคย เช่น Office, Windows, Hotmail, และ GitHub
- Mobilize Financial Services บริษัทด้านบริการทางการเงินในเครือ Renault Group
- MNTN บริษัทเทคโนโลยีโฆษณาดิจิทัลที่เชี่ยวชาญด้านการโฆษณาผ่านวิดีโอและแพลตฟอร์มออนไลน์
- New Era*
- Oakberry แบรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่โดดเด่นในด้านการจำหน่าย Acai Bowls และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- Qatar Airways สายการบินแห่งชาติของประเทศกาตาร์
- Shamir แบรนด์เลนส์สายตาและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสายตา
- Sprinklr แพลตฟอร์มการจัดการและวิเคราะห์ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management) บนช่องทางดิจิทัล
- The Venetian Resort โรงแรมหรูในลาสเวกัสและมาเก๊า
- Xbox บริษัทด้านเกมและผู้ผลิตเครื่อง Xbox เป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Microsoft
- Boeing บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและบริการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนระบบอาวุธทางทหาร รวมถึงดาวเทียมและยานอวกาศให้กับรัฐบาลทั่วโลก
แบรนด์ที่เป็น Team Suppliers ของ Alpine
- 3D Systems บริษัทด้านวิศวกรรมที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องพิมพ์ 3 มิติ วัสดุพิมพ์ 3 มิติ และชิ้นส่วนจากการพิมพ์ 3 มิติ
- Alpinestars*
- Delphi แบรนด์เทคโนโลยีระบบเชื้อเพลิงเบนซินและดีเซล การบำรุงรักษา การจัดการเครื่องยนต์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถยนต์ ตลอดจนชิ้นส่วนรถยนต์แบบ Aftermarket
- Jaaq (Just Ask A Question) แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสุขภาพจิต
- Lumi ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์การบำบัดและสุขภาพสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เช่น อุปกรณ์สำหรับการทำ Ice Baths และเครื่องซาวน่า
- Matrix Fitness อุปกรณ์ออกกำลังกายและอุปกรณ์คาร์ดิโอ
- Roland DG บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ด้าน Digital Printing และ CNC
- Trak Racer อุปกรณ์เสริมสำหรับการเล่นเกมระดับไฮเอนด์ อย่างเช่น อุปกรณ์ Racing Simulator
MoneyGram Haas
MoneyGram Haas F1 Team เป็นทีม Formula 1 จากสหรัฐอเมริกา เป็นทีมใหม่ล่าสุด (ที่ไม่ได้เกิดจากการเข้าซื้อทีมอื่น) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2014 โดย Gene Haas เจ้าของ Haas Automation และได้ลงแข่งขันในรายการ Formula 1 เป็นครั้งแรกในปี 2016 โดย ณ วันเปิดตัวรถแข่งของปี 2025 Haas มี Partners ทั้งหมด 19 แบรนด์ (1 แบรนด์ผิดกฎหมายที่เราไม่ได้กล่าวถึง) โดยมี MoneyGram เป็น Title Sponsor
MoneyGram (Title Sponsor) เป็นธุรกิจระบบชำระเงินดิจิทัลระหว่างบุคคล (P2P) ระหว่างธุรกิจ และระหว่างบุคคลและธุรกิจ โดย Haas มี MoneyGram เป็น Title Sponsor (ตั้งแต่ปี 2023)

แบรนด์ที่เทียบได้กับ Principal Partners ของ Haas
- Haas Automation ผู้ผลิตเครื่องจักร CNC (Computer Numerical Control) ตลอดจนอุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนสำหรับเครื่องจักร CNC รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย Gene Haas ซึ่งเป็นเจ้าของทีม Haas
- Toyota Gazoo Racing ทีมมอเตอร์สปอร์ตของ Toyota
แบรนด์อื่น ๆ ที่เป็น Partners ของ Haas
- Alpinestars*
- CommScope บริษัทเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานด้าน Network เช่น สายไฟเบอร์ออปติก อุปกรณ์เครือข่าย และโซลูชันสำหรับการสื่อสารไร้สาย
- HaasTooling.com เว็บไซต์ที่เป็นช่องทางการสั่งซื้อโดยตรงของ Haas Automation สำหรับการสั่งซื้อสินค้า Haas ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตัดประสิทธิภาพสูง ตัวจับยึดเครื่องมือ และผลิตภัณฑ์ยึดชิ้นงาน
- MGM Resorts International เครือรีสอร์ทและโรงแรมที่มีจำนวนมากกว่า 33 แห่งทั่วโลก
- Mphasis บริษัท IT สัญชาติอินเดียด้านซอฟต์แวร์ บริการดิจิทัล และโซลูชันไอทีสำหรับภาคธุรกิจ
- New Era*
- Orion180 บริษัทประกันภัยจากสหรัฐอเมริกา เน้นให้บริการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยทั่วไป
- Palm Angels แบรนด์แฟชั่นสไตล์สตรีท Luxury จากประเทศอิตาลี
- RUCKUS Networks ผู้ให้บริการโซลูชันเครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) และเครือข่ายแบบใช้สายสำหรับองค์กรและภาครัฐ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CommScope
- Schuberth ผู้ผลิตหมวกกันน็อคคุณภาพสูงสำหรับมอเตอร์ไซค์, กีฬาผาดโผน, และสำหรับอุตสาหกรรม
- Taittinger แบรนด์แชมเปญระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส
- TravisMathew แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และสำหรับกีฬากอล์ฟ
- Tricorp Workwear บริษัทผู้ผลิตชุดทำงานและเครื่องแบบสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากเนเธอร์แลนด์
- UChicago Medicine โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ในเครือมหาวิทยาลัยชิคาโก เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีภารกิจ 3 ประการ ได้แก่ การศึกษาทางการแพทย์ การวิจัย และการดูแลผู้ป่วย
แบรนด์ที่ให้การสนับสนุนมากกว่า 1 ทีม
มีหลายแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนมากกว่า 1 ทีม โดยแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนมากกว่า 1 ทีมเราจะใส่เครื่องหมาย * เอาไว้ เพื่อไม่ทำให้บทความยาวเกินไป และไม่ใส่ Pirelli ลงไปในแต่ละทีมเนื่องจาก Pirelli เป็นผู้สนับสนุนให้กับทุกทีมในการแข่งขัน Formula 1 ปัจจุบันอยู่แล้ว
Pirelli แบรนด์ผู้ผลิตยางจากอิตาลี เป็นผู้สนับสนุนยางให้กับทุกทีมในการแข่งขัน Formula 1 เพียงผู้เดียว (ไปอย่างน้อยจนถึงปี 2027)
PUMA แบรนด์กีฬาที่ออกแบบพัฒนา จำหน่าย และทำการตลาดเกี่ยวกับรองเท้า เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ โดยปัจจุบัน PUMA เป็นแบรนด์เสื้อผ้า (และอุปกรณ์กีฬา) ที่สนับสนุนให้กับทีม Formula 1 พร้อมกันมากที่สุด 4 ทีม ได้แก่ Scuderia Ferrari HP, Atlassian Williams Racing, Aston Martin Aramco, และ Kick Sauber
New Era แบรนด์หมวกและเครื่องแต่งกายกีฬา ซึ่ง New Era เป็นที่รู้จักมาจากหมวกเบสบอล ปัจจุบันให้การสนับสนุน 4 ทีม ได้แก่ Oracle Red Bull Racing, McLaren F1, BWT Alpine, และ MoneyGram Haas
Castore แบรนด์เสื้อผ้า (และอุปกรณ์กีฬา) ที่สนับสนุนให้กับทีม Formula 1 มากเป็นอันดับ 2 คือจำนวน 3 ทีม ได้แก่ Oracle Red Bull Racing, McLaren, และ BWT Alpine
Riedel บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับการส่งสัญญาณถ่ายทอดสดและการสื่อสารแบบไร้สายแบบเรียลไทม์สำหรับการออกอากาศ ปัจจุบันให้การสนับสนุน 3 ทีม ได้แก่ Scuderia Ferrari HP, Visa Cash App Racing Bulls, และ Sauber
Alpinestars บริษัทผลิตอุปกรณ์ป้องกันและเครื่องแต่งกายสำหรับนักแข่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยทีมที่ Alpinestars สนับสนุน ได้แก่ McLaren, BWT Alpine, และ MoneyGram Haas
Hewlett Packard Enterprise บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสำหรับองค์กร เช่น เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และบริการด้านไอที ให้การสนับสนุน 2 ทีม ได้แก่ Mercedes-AMG Petronas และ Sauber
Richard Mille แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่มี Share Value และ Passion ด้านการแข่งขัน โดยมีสโลแกนว่า “A racing machines on the wrist” ปัจจุบันให้การสนับสนุน 2 ทีม คือ Scuderia Ferrari HP และ McLaren ซึ่งเป็นทีมของแบรนด์ Supercar ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเพียง 2 ทีมจากทีมทั้งหมดในการแข่งขัน Formula 1
Sabelt ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสำหรับการแข่งรถจากอิตาลี เช่น เข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด และเบาะแข่ง ปัจจุบันให้การสนับสนุน Scuderia Ferrari HP และ Sauber
ข้อมูลอ้างอิงบางส่วนจาก
- F1 2024 in numbers
- Formula 1 announces TV, race attendance and digital audience figures for 2021
- Take a tour of Mercedes-AMG PETRONAS F1 team
หมายเหตุ: *** หมายถึง แบรนด์ด้านธุรกิจการเงินที่ไม่ได้รับการรับรองโดย ก.ล.ต. ของไทย